22 Nov 2007

อ่างกา ประตูสู่หิมาลัย




ณ. จุดสูงสุดของยอดดอยอินทนนท์ ที่ระดับความสูง 2565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูมรสุม สายลมกรรโชก แรงเป็นระยะ ระยะ หอบเอากลุ่มเมฆ และสายน้ำอันเย็นเยียบ วูปผ่านผวกเราเป็นระลอก ระลอก บากคราวสายลมหอบเอาเมฆหมอกหนาคลายควันไฟขาวโพลน พัดผ่านพวกเราจนแทบมองหน้ากันไม่เห็น สภาพอากาศมีความแปรปรวนสูงมาก ในช่วงเวลานี้แทบไม่มีวันใดที่จะมีแสงแดด ที่จะส่องเพื่อให้ความอบอุ่นบนแผ่นดินที่เป็นประตูสู่เทือกเขาหิมาลัย
ตรงข้ามสถานที่ทำการของกรมป่าไม้ของยอดดอยอินทนนท์นี้เพียงเดินข้ามถนนก็จะพบทางเดินทอดต่ำลงไปด้านข้าง คือเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา ป่าดึกดำบรรพ์ ที่ยอดดอยแห่งนี้ไม่เคยต้องพบกับการคุกคามของไฟป่า มานานแสนนานเนืองจากพื้นที่ป่านี้อยู่ในระดับความสูงของเมฆหมอก ทำให้สภาพป่ามีเมฆและหมอกปกคลุมเกือบตลอดปี ทำให้ป่ายอดอยอินทนนท์นี้ สามารถที่จะดูดซับเอาความชื้นจากละอองเมฆและหมอกหล่อเลี้ยงพื้นที่ตลอดปี ต้นไม้ทุกต้นสูงปกคลุมไปทั่วผืนป่า มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปีทำให้ ตามกิ่งก้านและลำต้นถูกปกคลุมเขียวไปด้วพืชขนาดเล็ก อย่าง มอส ไลเคน และ เฟิร์น อยู่อย่างหนาแน่น ทางเดินศึกษาธรรมชาติถูกสร้างขึ้นอย่างดี ทำเป็นสะพานไม้ทอดลึกเข้าไปในป่า ไม่ทุกท่อนที่นำมาประกอปเป็นทางเดินถูกปกคลุมด้วย มอสเล็ก ๆ จนเขียวและชุ่มฉ่ำด้วยไอน้ำไปหมด จนแทบไม่มีส่วนใดเหลือว่างให้เห็นผิวเปลือกของมันเลย ยกเว้นเพียงผืนไม้กระดานที่ถูกเดินย่ำอยู่ทุกวัน ในความเงียบสงบ พวกเราจะได้ยินเสียงเพลงกล่อมไพร จากสายลมที่พัดผ่าน ยอดไม้และนกเล็ก ๆ ที่มีอยู่มากมายบนดอยสูงแห่งนี้ ส่งเสียงประสานสำเนียงเป็นระยะ

เส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติวันนี้อากาศปิดมากฝนโปรยลงมาตลอดเวลา ทำให้เราต้องสวมเสื้อกันฝนกันตลอดการเดินทางในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา

13 Nov 2007

อินทนนท์ดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย

ภาพ : ไอ้ลูกทุ่งแห่ง siamensis.org

รถกะบะสี่ประตู สีน้ำเงิน บรรจุสำภาระเต็มกะบะหลังและมีการคลุมผ้าใบอย่างดีเพื่อกันฝน ที่มีวี่แววว่าน่าจะตกลงมาได้ตลอดเวลา เคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยกำลังแรงม้าของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือ แม้จะเป็นเวลาสี่นาฬิกาของวันใหม่ที่เริ่มออกเดินทาง ถนนยังมืดมิด แต่ภายในห้องโดยสารผู้โดยสารทั้งสี่ยังตาสว่างและคุยกันในเรื่องราวต่าง ๆ แผนการเดินทาง จุดหมายต่าง ๆ ที่ต้องการจะไปจะได้พบอะไรบ้าง แสงตะวันเริ่มเรืองรองขึ้นมาพร้อมกับสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา บางแห่งที่รถวิ่งฝ่าไปบนเส้นทางหลวงสายเอเซีย ก็เป็นช่วงที่ไม่มีฝนพรำ บางช่วงก็โหมกระหน่ำ แต่จุดหมายปลายทางยังอีกไกล เราพักทานอาหารเช้าที่ตลาดในตัวเมืองจังหวัดตาก อีกจังหวัดหนึ่งที่มีธรรมชาติที่ยังสวยงาม ตลาดจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง มีสินค้าขายมากมายนับเป็นความโชคดีของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ที่ยังไม่มีการบุกเข้ามาตั้งสาขาของห้างค้าปลีกรายใหญ่ ๆ จากต่างชาติ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่า จะเป็นตลาดแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน

เดินทางจากจังหวัดตามขึ้นเหนือสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงเชียงใหม่ ไม่มีฝนตกลงมาให้เห็น อากาศในตัวเมืองค่อนข้างร้อน พวกเราหยุดเติมพลังงานกันอีกครั้งก่อนเดินทางต่อสู่ดอยอินทนนท์ ดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย

" อากาศข้างบนเป็นไงบ้าง ? " เสียงจากปลายทางตอบมาอย่างอารมณ์ดี " เอ้อดี ขึ้นมาถึงเดี๋ยวก็รู้เองเหละ อากาศกำลัง Romantic วะ " คำตอบที่เหมือนจะไม่ได้ตอบอะไรเลย เพราะผมต้องการรู้ว่าสภาพอากาศข้างบนเป็นอย่างไร ฝนตก แดดออก หรือ ??? แต่เมื่อผมได้ขึ้นไปอยู่ข้างบนยอดเขาแห่งนี้หลายวันจึงได้ถึงบางอ้อ และเข้าใจว่า อากาศข้างบนมันยากที่จะอธิบายให้คนข้างล่างเข้าใจจริง ๆ

รถขับเคลื่อนสี่ล้อกำลังไต่ระดับความสูงจากตีนดอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อมุ่งสู่ยอดดอย ในเส้นทางช่วงแรกก็ดูอากาศสดใส สบาย ๆ ดี แต่เมื่อเริ่มสูงขึ้นสายฝนก็เริ่มแสดงตัวให้เราเห็น เราขับรถผ่านด่านไปแวะที่บ้านลุงแดง เพื่อเอารูปงูที่ไอ้ลูกทุ่ง ถ่ายได้จากดอยอินทนนท์เมื่อคราวที่แล้วมาฝากลุงแดง แต่ดูแล้วไม่รู้ลุงจะเอาไปแปะไว้ตรงไหนดีเพราะในบ้านมีแต่รูปนก เอาไปติดไว้มีแววว่านกของลุงจะดดนกินหมดแน่


ออกจากบ้าลุงแดงอากาศยังคงเป็นฝนโปรยปรายเบา ๆ อากาศเย็นสบาย แต่เมื่อเราขับรถผ่านจุดตรวจด่าน 2 ไปแล้วจึงพบว่าสภาพอากาศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทุก ๆ ระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น ระดับอุณหภูมิก็ยิ่งลดต่ำลง ยิ่งสูงขึ้น ยิ่งต่ำลง สภาพอากาศปิดมากจนเราไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ตลอดทางปกคลุมไปด้วยเมฆ เป็นระยะ ๆ เราเพิ่มความระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้น ขณะที่เราขับผ่านพระธาตุนภเมทนีดล และพระธาตุนภพลภูมิสิริ สภาพเส้นทางปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก จนไม่สามารถมองเห็นพระธาตุทั้งสอง เราตัดสินใจขับรถต่อไปถึงจุดสูงสุดเลยเพื่อเข้าที่พักทหารอากาศก่อนจะออกมาสำรวจภายนออกกันภาพหลัง

7 Nov 2007

เพราะจุดหมาย ไม่เคยเดินทางมาหาเรา

ภาพ : ไอลูกทุ่ง จาก Siamensis.org
ความฝันถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเดินทาง เพื่อไปให้ถึง ความสงบ ความงดงาม และการได้รับอากาศที่สดชื่น สามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอด เพื่อรับกลิ่นไอของป่า และความชุ่มชื้น ดอยอินทนนท์ เป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งของผม ที่มีความฝันในการเดินทางเพื่อไปให้ถึงมาหลายเวลาแล้ว ก็อย่างที่ผมบอก จุดหมายไม่เคยเดินทางมาหาเรา เหมือนกับสิ่งดีๆ ที่มีอยู่รอบตัวอาจมีแวบผ่านเข้ามาให้เห็นบ้าง แต่เราต้องเป็นคนวิ่งเข้าไปหา จุดหมาย เป้าหมาย การเดินทางเพื่อไปให้ถึงดอยอินทนนท์ ของผมและเพื่อนๆ ครั้งนี้ เกิดขึ้นในฤดูฝน ในช่วงที่พายุโหมกระหน่ำเข้าสู่ประเทศไทย แม้พวกเราจะรู้ว่ามีพายุฝน แต่เราก็ติดตามการพยากรณ์อากาศตลอดเวลา หวังว่าคงไม่มีการแปรสภาพเป็นพายุที่รุนแรงกว่านี้ ฝนแค่นี้ไม่สามารถหยุดการเดินทางของพวกเราได้แน่นอน


เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากเห็นมากคือ กะท่าง ที่มีสภาพอาศัยอยู่ในธรรมชาติอย่างแท้จริง ซึ่งคงสามารถพบได้ไม่กี่แห่งในดอยสูงของประเทศไทย และที่นี่ดอยอินทนนท์ ก็เป็นสถานที่ ที่เราจะสามารถพบเห็นกะท่าง ได้ถ้าเรามาในช่วงเวลาที่เหมาะสม และรู้จุดหมายที่จะค้นหา








6 Nov 2007

ครบรอบ 1 ปี วันแต่งงานของสองเรา

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาคือวันครบรอบวันแต่งงานของผม

เวลาหนึ่งปีเหมือนสายน้ำที่ไม่เคยหยุดไหล ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดีใจในสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำไป การมีครอบครัวมีความรัก เป็นสิ่งท้าท้าย และการทำให้รักคงอยู่ และสดใสตลอดเวลายิ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่า

การเดินทางหนึ่งปีที่ผ่านมามีเรื่องราวให้เล่ามากมาย ทั้งการเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ และเรื่องราวความรักที่ขอเก็บไว้เป็นความลับของเราสองคน

Search This Blog

GoDaddy 7.49 Domain Sales